คิดถึงนะภูเก็ต- ส่งตะวันที่แหลมพรมเทพ

คิดถึงนะภูเก็ต- ส่งตะวันที่แหลมพรมเทพ

แหลมพรมเทพ จังหวัดภูเก็ต เมื่อกล่าวชื่อสถานที่แห่งนี้เชื่อได้ว่า หลายท่านคงเคยได้ยินและรู้จักชื่อเป็นอย่างดี เพราะเป็นสถานที่มีชื่อเสียง อีกทั้งเป็นสถานที่ซึ่งเชื่อได้ว่าจะเห็นพระอาทิตย์ตกเป็นสถานที่สุดท้ายของประเทศไทย และมีการประกาศประมาณการณ์เวลาพระอาทิตย์ตกของประเทศ โดยสถานีวิทยุให้เราๆ ท่านๆ ได้ยินกันทุกเช้าและเย็น จึงมั่นใจว่า ภาพที่ซักวันหนึ่งจะต้องมาเยือนและนั่งดูพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรมเทพ จะต้องเกิดขึ้น เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับไปลองดู 

ในสถานการณ์เที่ยวทิพย์แบบนี้ ไปลองดูขอย้อนนำเรื่องราวเก่าๆ เมื่อครั้งไปเยือนภูเก็ต เมื่อประมาณปลายปี พ.ศ. 2561 และเป้าหมายในครั้งนั้นก็ไม่พลาดการไปชมพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรมเทพ จึงมีการจัดแจงเช่ารถจักรยานยนต์เป็นพาหนะขี่ขึ้นไปชมพระอาทิตย์ตก โดยจุดเริ่มต้นจากที่หาดกระรน

ในตอนนั้น การจองรถบอกได้เลยว่า เป็นอะไรที่ยากมากสำหรับคนไทย เหมือนไปติดต่อร้านไหน เขาก็หาเรื่องบ่ายเบี่ยงไม่อยากให้เช่า จนเจอร้านสุดท้ายเราจึงยื่นข้อเสนอว่า เรามีเงินมัดจำตามที่ต้องการ และมีพาสปอร์ตหากไม่ต้องการบัตรประชาชน จึงมีเจ้าของร้านท่านหนึ่งยอมให้เราเช่ารถ โดยการวางมัดจำเป็นเงิน 5000 บาท ส่วนค่าเช่า 400 บาทต่อวัน โดยสภาพรถที่เช่ามีหน้าตาดังภาพ

หลักจากได้รับรถจักรยานยนต์แล้วก็ถึงเวลาแว๊นไปยังแหลมพรหมเทพ แต่ทว่าระหว่างทางไปแหลมพรมเทพจะมีจุดชมวิวหาดต่างๆ ของภูเก็ตให้ได้เยี่ยมชมจากมุมสูงด้วยนะ สวยงามขนาดไหนตามภาพเลย

หลักจากชมวิวเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาแว๊นต่อไปยังแหลมพรหมเทพ ถนนมีความโค้งและราดเอียง ซึ่งผมต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมากในการขับขี่ ประกอบกับมีชาวต่างชาติที่ขับขี่รถอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ผมจะต้องใช้ความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น จนกระทั้งมาถึงบริเวณแหลมพรมเทพ ซึ่งเป็นจุดหมายการเดินทางอย่างปลอดภัย

แต่ทว่า ในระหว่างที่ทำการหาที่จอดรถอยู่ก็มีเมฆลอยหนามา และอีกไม่นานก็มีฝนตกลงมาอย่างหนัก นี่หละหน๋าการมาเที่ยวภาคใต้ การลุ้นไม่ให้ฝนตก ถือเป็นเรื่องที่ทำอยู่ตลอดเวลา แต่เราก็หวังว่าฟ้าจะเปิดอีกครั้งตอนใกล้ๆ พระอาทิตย์ตก ในระหว่างนี้ก็จอดรถและเขาไปถ่ายภาพบรรยากาศรอบ ๆ รอก่อน

ภายในบริเวณจะพบกับประภาคารกาญจนาพิเศก ที่ตั้งตะหง่ายอยู่บนเนินหน้าผา ที่สามารถมองวิวมุมกว้างออกไปยังท้องทะเลที่ไกลสุดลูกหูลูกตา ในวันนั้นท้องทะเลหลังฝนตกดูเย็นสบาย และมีต้นไม่สีเขียวขจีตามเก่าต่าง ๆ 

เบื้องล่างจากประภาคารการญจนาพิเศก จะพบกับแหลมพรหมเทพที่ทอดยาวลงไปในทะเล เป็นจะที่มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากมากนั่งถ่ายภาพ วาดลวดลายและท่วงท่าต่างๆ มากมายกับแหลมพรหมเทพในระหว่างที่กำลังรอพระอาทิตย์ตกดิน พรางกับลุ้นไปด้วยเพื่อขอให้ท้องฟ้าเปิด เพื่อจะได้เห็นพระอาทิตย์อีกสักครั้ง ก่อนส่งลาในวันนี้

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ชีวิตเฝ้ารออย่างมีความหวัง ภาพพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพเป็นสิ่งที่ตั้งตารอ แต่ดูเหมือนว่าความหวังจะเริ่มริบหรี่ขึ้นเรื่อย ๆ ฟ้าเริ่มมืดลงทุกที ทุกที จนทางประภาคารได้เปิดเพลงชาติในเวลาหกโมงเย็น ซึ่งถือว่ามืดมากแล้วในช่วงเวลาฤดูหนาว จึงมั่นใจได้ว่า ทริปส่งตะวันที่แหลมพรหมเทพวันนี้คงไม่บรรลุเป้าหมายแล้วแน่นอน





ความมืดได้เข้ามาปกคลุมเหนือบริเวณแหลมพรหมเทพ ก็ได้เวลาเคลื่อนย้ายและแว๊นจักรยานยนต์กลับไปยังหาดกะตะ ซึ่งโรงแรมที่พักตั้งอยู่ที่นั้น มีโอกาสเราจะกลับมาเยือนและเก็บสีสันเวลาพระอาทิตย์ลับของฟ้าให้ได้นะจ๊ะ  แว๊นกลับโรงแรมก่อนดีกว่า!

……

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *