เมืองไทยไม่สิ้นคนดี ฉันท์ได เขาใหญ่ก็ไม่สิ้นที่เช็คอิน ฉันท์นั้น!
เป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่แอดมินไปลองดู ตกหลุมรักในเสน่ของเขาใหญ่อย่างเต็มตัว เขาใหญ่ไม่เพียงแต่มีอุทธยานแห่งชาติอันเป็นมรดกโลกที่ขึ้นชื่อ แต่ที่นี่ยังมีที่พักสวย ๆ สไตล์ยุโรป และอีกนานาประเทศ รวมถึงการมีอาหารแนวตะวันตกอย่างพิซซ่าและสเต็กที่อร่อย และมีให้เลือกรับประทานมากมายหลายร้าน สามารถกล่าวได้ว่า มาเที่ยวเขาใหญ่ เหมือนกับไปเที่ยวที่ประเทศอิตาลี กันเลยทีเดียว แต่…แฮ่! ไม่ต้องถามนะว่าเคยไปอิตาลีไหม ก็แค่เคยเห็นผ่านทีวีเหมือนกันล่ะ คริ ๆ ๆ
เสน่อีกหนึ่งอย่างของเขาใหญ่คือ การหาร้านกาแฟ บรรยากาศสบาย ๆ ในบรรยากาศสายลม ขุนเขา และหลากหลายสไตล์ อย่างเช่นในบทความนี้ ไปลองดูก็จะพาท่านผู้อ่านไปรู้จักกับร้านกาแฟน้องใหม่ ในบรรยากาศที่แวดล้อมด้วยสวนหย่อมไสตล์ญี่ปุ่น มีน้ำตก และทะเลสาบที่จำลองขึ้น เป็นบรรยากาศที่ชิ๊กมาก ถ้าหน้าฝน และหน้าหนาว คงเดินเพลินทั้งวัน
ร้านกาแฟที่กล่าวถึงก็คือ ติมอ คอฟฟี่-Timeo Coffee ภายใน ลาโก ดิ เขาใหญ่ – Lago Di Khaoyai โดยการเยือนที่นี่จะได้ชมสวนและภูมิทัศน์ที่สวยงามแบบฉบับของสวนหย่อมแบบญี่ปุ่น และจบด้วยการพักเหนื่อยที่ร้านกาแฟ ติเมอคอฟฟี จะเป็นยังไงเดี๋ยวไปชมกันเลย
ที่ตั้งของ ลาโก ดิ เขาใหญ่ อยู่บนถนนทางลัดจากถนนธนรัตน์ มุ่งหน้าไปออกมวกเหล็ก โดยจะอยู่ห่างจากถนนธนรัตน์เป็นระยะทาง 11 กม. อยู่ในซอยเดียวกับวัดเหวปลากั้ง เส้นทางที่เข้ามาสะดวกสบาย ถนนสวยงามตาเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อเข้ามาถึงบริเวณลานจอดรถของ ลาโก ดิ เขาใหญ่ ก็จะมีพนักงานจัดแจงที่ให้จอดรถ และจากนั้นก็จะมีรถรับส่งนำเราไปยังจุดจำหน่ายตั๋ว โดยการเข้าชม ลาโก ดิ เขาใหญ่ จะต้องมีการชำระค่าเข้าชมในอัตรา

- ผู้ใหญ่ 100 บาท
- เด็ก (อายุ 7-14ปี) 50 บาท
หลังจากซื้อตั๋วเรียบร้อยก็ได้เวลาเดินมุ่งหน้าชมสวนกันได้เลย โดยจะมีพนักงานคอยแนะนำเส้นทางด้วย เป็นระยะๆ เพื่อไม่ให้หลงทาง ส่วนการเข้าชมมีดังนี้
จุดเริ่มต้นการเดินทาง
ณ จุดเริ่มต้นการเดินทาง จะเริ่มมีสวนสวยๆ ทั้งที่เป็นต้นไม้ยืนต้น แนวไม้ประกับบนผาหิน คูขนานกับทิวไม้ประดับที่วางเป็นแนวยาวบนถนนที่ปูด้วยคอนกรีตลงลายสวยงาม


จุดที่ 2
เป็นถนนลาดเอียง ประดุจหนึ่งว่ากำลังเดินอยู่ในอุโมงค์ต้นไม้บนภูเขาแห่งไดแห่งหนึ่ง ที่มีผาหิน มีไม้พุ่มประดับตามซอกหิน และมีต้นไม้ใหญ่ตลอดแนวถนน


จุดที่ 3 สวนหย่อมแนวญี่ปุ่น
เมื่อเดินได้ประมาณสัก 100 เมตร ก็จะเข้าทาสู่บรรยากาศส่วนหย่อมแบบญี่ปุ่น มีบรรยากาศของน้ำตก ไหลตามโดหิน มีสะพานต้นไม้ ที่ให้เดินข้ามธารน้ำตก ในพื้นที่ลาดเอียง สวยงามไม่แพ้น้ำตกตามธรรมชาติ

จุดที่ 4 ทะเลสาบ
ภายในลาโก ดี เขาใหญ่ มีทะเลสาบด้วยนะ จะบอกให้! เป็นทะสาบที่เต็มไปด้วยฝูงปลาคร๊าฟ อีกทั้งมีหน้าผาซึ่งเป็นแนวม่านน้ำตกตลาดแนวหน้าผา


จุดที่ 4 ร้านติมอ คอฟฟี่ (Timeo Coffee)
หลังจากเดินชมสวน เหนื่อยหอบกันพอสมควร ก็ได้เวลาหาจุดนั่งพักในร่ม รับแอร์ และจิบกาแฟเย็น ๆ โดยติมอ คอฟฟี่ มีลักษณะเป็นร้านกาแฟเรือนไม้ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ ในแบบฉบับของอาคารสไตล์สแกนดิเนเวียร์ และทราบมาว่าตัวอาคารเองก็สร้างจากไม้สนสแกนดิเนเวียร์ด้วยเช่นกัน
ภายในร้านกาแฟติมอ คอฟฟี่ มีความกว้างขวางมาก มีหน้าต่างกระจกนั่งรับวิวน้ำตก และชมทิวทัศน์ได้อีกด้วย มีมุมนั่งสบาย ๆ และชิ๊กๆ อยู่หลายมุม หรือจะออกไปเดินเล่น หรือนั่งเล่นที่ริมระเบียงด้วยก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ แต่ต้องเป็นวันที่แดดอ่อน ๆ นะจ๊ะ!








ในส่วนของกาแฟและเครื่องดื่ม ทางร้านมีเมนูมากมายให้เลือก มีทั้งเครื่องดื่มและเบเกอรี่รสชาติดีให้เลือกรับประทาน โดยในครั้งนี้ได้ลองชิม คาราเมล มัคคีเอโต้ ได้ลิ้มรสกาแฟอันหอมกรุ่น กลมกล่มด้วยคาราเมล นับว่ารสชาติดีทีเดียว ส่วนในเรื่องราคากาแฟ ราว ๆ 100 บาทต่อแก้ว (เฉลี่ย) ก็ถือว่าคุ้มค่า คุ้มราคา กับกาแฟหอม ๆ ในบรรยากาศสวยๆ ของเขาใหญ่
นั่งพักผ่อน ชิมกาแฟ สำราญใจกันแล้ว ก็ได้เวลาที่ต้องกลับ ก็จะต้องผ่านไฮไลท์ จุดสุดท้าย รอดอุโมงค์ผ่านหุบเขา เพื่อมุ่งหน้าสู่จุดทางเข้า และโดยสารรถรับส่งไปยังลานจอดรถในลำดับสุดท้าย
การมาเที่ยวที่ลาโก ดี เขาใหญ่ เป็นสิ่งที่สวยงาม ตื่นตาตื่นใจมาก เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่ไม่ควรพลาดสำหรับทริปท่องเที่ยวเขาใหญ่ ต้องไปลองดู ไปให้รู้ ไปให้เห็น! นะจ๊ะ ใครๆไปก็มีความสุข ดูภาพซิ