ตามหาความแซ่ป อาหารไทย ที่เมืองมิลวอคกี้ (Milwaukee) สหรัฐอเมริกา

ตามหาความแซ่ป อาหารไทย ที่เมืองมิลวอคกี้ (Milwaukee) สหรัฐอเมริกา

Elephant Cafe Milwaukee (Thai-Lao Foods)

เมืองมิลวอคกี้ (Milwaukee) เป็นเมืองที่อยู่ติดทะเลสาบมิชิแกน ตั้งอยู่ในรัฐวิสคอนซิน จะเป็นเมืองมีขนาดเล็ก อากาศค่อนข้างเย็นสบาย โดยจะมีฤดุหนาวจนถึงเดือนเมษายน ของทุกปี 

ท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บ มีหิมะโปรยปราย การกินเพียงอาหารฝรั่ง จำพวกเสต็กช่างไม่ช่วยให้ร่างกายเกิดความอบอุ่นเอาซะเลย ในการเดินทางไปเยือนเมืองแห่งนี้ในช่วงเมษายน 2561 การได้ส้มตำรสจี๊ดจ๊าดซักจาน จะเป็นการดีเป็นอย่างยิ่ง คิดถึงความเผ็ด จัดจ้าน และกลิ่นปลาร้าหอมๆ ในสภาพอากาศที่เย็น ๆ ยะเยือก

นับว่าเป็นโชคของผมได้ได้พบกับเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียง 2 ท่าน ท่านแรกเป็นเพื่อนหญิงจากมาเลย์เซีย ส่วนอีกคนเป็นเพื่อนหญิงเช่นกันที่พ่อแม่ย้ายถิ่นฐานไปอยู่อเมริกาตั้งแต่เด็ก จนพูดภาษาลาวไม่ได้แล้ว ทั่งสองคนได้แนะนำร้านอาหารไทย ให้ผมเพื่อไปลิ้มรสส้มตำท่ามกลางบรรยากาศที่หนาวเหน็บ โดยร้านที่เพื่นได้แนะนำชื่อว่า “ร้านช้าง (Elephant Thai-Lao Cousin Restaurant) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองมิลวอคกี้

การเดินทางต้องผ่านจุดต่าง ๆ ของเมือง ดูแล้วก็เป็นเมืองที่เงียบสงบ ผู้คนอาศัยอยู่บางตา อีกทั้งได้เดินทางเรียบชายหาดของทะเลทราบมิชิแกนอีกด้วย ดูแล้วเหมือนเมืองชายทะเล แต่เป็นทะเลสาบน้ำจืดครับ เพียงไม่นานผมก็ได้เดินทางมาถึงที่ร้าน

ร้านอาหารช้าง เป็นร้านอาหารไทย-ลาว ที่ดำเนินการด้วยเจ้าของร้านชาวลาว เป็นร้านเล็ก ๆ ตั้งอยู่ริมถนนภายในเมืองมิลวอคกี้ เป็นธุรกิจครัวเรือนที่มีคนให้บริการแค่ 2-3 คนเท่านั้น

เมนูอาหารของทางร้าน เต็มไปด้วยเมนูอาหารไทย และอาหารลาว ที่ถูกออกแบบเป็นเซ็ท แบบอเมริกา มีให้เลือกมากมาย แต่ผมก็เลือกได้ไม่ยากเนื่องจากหิวมาก ส้มตำ จึงจัดการสั่งส้มตำและข้าวผัดกระเพราะหมู ขอแบบเผ็ด ๆ 

ไม่นานเมนูที่ผมสั่งก็มาถึง ส้มตำปลาร้าเผ็ดจัดจ้านมาก พร้อมทั้งข้าวผัดหมู มาแบบเผ็ด ๆ เช่นกัน โดยอาหารทั้งสองอย่างมาในปริมาณที่เรียกว่า ปริมาณของคนอเมริกัน (American Portal) ประมาณ 2.5 เท่าของจานอาหารไทย

ส้มตำปลาร้า นับว่ายังคงความเป็นแบบดังเดิม กลิ่นปลาร้า หอมและนัวมาก แต่เนื้อมะละกอคาดว่าคงเดินทางไปไกล จึงทำให้ความกรอบของเส้นมะละกอลดลงไปมาก การทำเส้นก็ขูดยาวไปหน่อย ทำให้คล้ายกับเส้นก๋วยเตี๋ยวมากกว่าเส้นมะละกอ

ส่วนข้าวผัดกระเพราะหมู ก็เป็นเมนูที่ใกล้เคียง แต่ทว่าเป็นการผัดแบบใส่พริกปาปริกา แทนการใช้พริกสด ผัดกระเพรา จึงทำให้รสชาติออกแนวเผ็ด แสบร้อน อันเนื่องมาจากพริกไทย และพริกป่น มากกว่ารสชาติแซ่ป เผ็ดร้อน จากพริกและกระเพราะเหมือนในไทย

ในขณะเดียวกันเพื่อนที่ไปด้วยสั่งแค่ ไก่ผัดพริก ต้ำขาไก่และเฝ๋อ

แซ่ปได้ใจจริง ๆ กินไปเหงื่อตกไป อุณหภูมิร่างกายเปลี่ยนจาหนาวเป็นอุ่นขึ้นมาในทันที คุ้มค่ากับการตามหาจริง ๆ เนื่องจากอาหารแบบอเมริกา เป็นการสั่งแบบคนละจาน ไม่มีการแบ่งกันทานเหมือนในบ้านเรา ดังนั้นผมจึงต้องรับผิดชอบอาหารจานใหญ่นี้ด้วยตัวผมเอง กว่าจะกินหมด อิ่มแปล้ หนักท้องเลยทีเดียว

อิ่มอร่อยแล้ว เช็คบิล เฉพาะค่าอาหาร ข้าว น้ำ ส้มตำ รวมแล้ว 23.13 ดอลล่า หรือประมาณ 700 กว่าบาท แต่เนื่องจากธรรมเนียมของอเมริการจะต้องมีการให้ทริปด้วย ตั้งแต่ 10% จนกระทั้ง 25% ดังนั้นรวมทริปแล้วผมจาย 26.58 ดอลล่า หรือ 800 กว่าบาท

อิ่มอร่อย ได้รสชาติแบบไทยๆ แล้ว ชีวิตสามารถสู้ต่อในต่างแดนได้อีกหลายวันครับ

แล้วพบกันใหม่บทความหน้าครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *