ทริปเยือนถิ่นลุงแซม (USA) รีวิวที่นั่งชั้นธุรกิจ เที่ยวบิน EK 235 ดูไบ-ชิคาโก้ Boeing 777-300ER

ทริปเยือนถิ่นลุงแซม (USA) รีวิวที่นั่งชั้นธุรกิจ เที่ยวบิน EK 235 ดูไบ-ชิคาโก้  Boeing 777-300ER

เที่ยวบิน EK 235 ดูไบ-ชิคาโก้ Boeing 777-300ER

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน บางท่านอาจจะรู้ว่า การเดินทางสู่สหรัฐอเมริกาด้วยสายการบินเอมิเรตซ์แอร์ไลน์ หากเริ่มต้นจากประเทศไทย จำต้องเดินทางสู่ประเทศดูไบเพื่อทำการเปลี่ยนเครื่อง โดยเริ่มต้นจากสนามบินสุวรรณภูมิ ทางสายการบินได้ใช้เครื่องบินลำใหญ่ อย่างเครื่องบิน A๓๘๐ เพื่อลำเลียงผู้โดยสารจำนวนมากจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปทำการเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบ และในครั้งนี้เพื่อเดินทางต่อไปยังสหรัฐอเมริกา ผมก็ต้องไปต่อเครื่องที่นี่ด้วยเช่นกัน
 
การขึ้นเครื่องในชั้นธุรกิจ ได้รับโอกาสในการขึ้นเครื่องก่อนเสมอ รวมถึงการตรวจเอกสารก็ได้รับอำนวยความสะดวกให้เดินทางในช่องทางพิเศษ 

 สำหรับการต่อเครื่องไปยังอเมริกา เนื่องจากเป็นการเดินทางระยะไกลที่ต้องใช้เวลาราว ๆ ๑๕ ชั่วโมงในการเดินทาง และจำนวนผู้โดยสารที่มีไม่มาก ทางสายการบินเอมิเรตซ์แอร์ไลน์ จึงจัดบินด้วยเครื่องบิน  Boeing ๗๗๗-๓๐๐ER สำหรับเที่ยวบิน EK-๒๓๕ ซึ่งเป็นเครื่องบินระยะไกล ๒ เครื่องยนต์ของค่ายโบอิ้ง

ที่นั่งในชั้นธุรกิจ ถูกจัดเรียงทั้งหมด ๕ ที่นั่งตามแนวหน้ากระดาน โดยมีผนังกั้นระหว่างที่นั่ง เพื่อแยกให้เปนส่วนตัว อีกทั้งด้านข้างที่นั่งยังมีตูู้กระจกเล็ก ๆ จัดเก็บเครื่องดื่ม เป็นมินิบาร์ไว้บริการประจำที่นั่ง

พื้นที่ใช้สอยบริเวณที่นั่งถือว่ากว้างมาก สามารถปรับที่นั่งลงจนกระทั้งอยู่ในแนวระนาบ เป็นที่นอนขนาดย่อมกันเลยทีเดียว มีจอทีวีขขนาดใหญ่ โดยทีวีจะแบ่งเป็น ๓ ประเภทเมนู คือ ข้อมูลการเดินทาง (i) การติดต่อสื่อสาร (c) บันเทิงคือ (e)

บนเครื่องมีจอทีวี ๒ แบบคือ จอขนาดใหญ่ ติดตั้งไว้หลังที่นั่งด้านหน้า และ จอขนาดเล็กขนาดเท่าแท๊บเล็ต มีไว้ใช้งานกรณีป้องกันการรบกวนผู้โดยสารท่านอื่นในเวลาที่นอนหลับ

สำหรับบริการบนเครื่องในเที่ยวบิน EK ๒๓๕ หลังจากขึ้นมาบนเครื่องก็จะได้รับการเสิร์ฟเครื่องดื่มต้อนรับ มีให้เลือกว่าจะเป็นแชมเปญ น้ำส้ม หรือน้ำแอ๊ปเปิ๊ล ดื่มได้จนเครื่องขึ้น รวมถึงมีการแจกผ้าอุ่นเช็ดหน้าให้สดชื่นด้วย

หลังเครื่องเริ่มขึ้นบินได้ประมาณ ๓๐ นาที สามารถเลือกดื่มไวน์และขนมขบเคี้ยวรอมื้ออาหารบนเครื่อง โดยบนเทียวบินของสายการบินเอมิเรตซ์ จะนำไวน์แดงจากฝรั่งเศสและอิตาลีมาให้ได้ลิ้มรส นับเป็นไวน์ที่หอมและคุณภาพดีมาก รสชาติกลมกล่อมสุด ๆ

นั่งจิบไวน์ ดูหนังเพลิน ๆ จนได้เวลาอาหาร ก็มีอาหารที่เสิร์ฟแบบเป็นเซ็ต โดยเริ่มจากออเดิร์ฟ อาหารจานหลัก และของหวานหรือผลไม้ โดยในวันนี้เลือออเดิร์ฟเป็นเซลมอลรมควัน และหารมื้อหลักคือสเต็กเนื้อและปิดท้ายด้วยผลไม้สด

หลังจากทานอาหารอิ่มท้อง นั่งดูหนังเพลิน ๆ พร้อมจิบไวน์เรื่อย ๆ และเติมได้ตลอดทั้งคืน ตลอดการเดินทางกว่า ๑๕ ชั่วโมง ซึ่งทั้งหมดจะมีการเสิร์ฟอาหารหลัก ๆ คือ ๓ มื้อ แต่สามารถที่จะไม่ทานและเปลี่ยนเป็นดื่มของว่างอื่น ๆ ได้ด้วย

หนังท้องตึง จิบไวน์กึบ ๆ ประกอบกับที่นั่งซึ่งที่ถูกปูด้วยผ้ารองนุ่ม ๆ เอนกายหลับแทบไม่รู้สึกตัว ทำให้การเดินทางจากดูไบ ถึง นครชิคาโก้ สหรัฐอเมริกา ดูใกล้ลงไปมาก

เที่ยวบิน EK ๒๓๕ ได้นำผู้โดยสารไปถึงที่นครชิคาโก้ในเวลา ๑๓.๐๐ น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยในเวลาดังกล่าวอุณหภูมิที่สนามบินคือ -๑ องศาเซลเซียส  ในขณะเครื่องวิ่งเข้าสู่อาคารผู้โดยสาร มีการถ่ายทอดภาพผ่านจอทีวีให้สามารถชมเส้นทางได้ด้วย

 

นับเป็นการเดินทางที่รู้สึกสบายและตื่นเต้นที่ที่ รวมการเดินทางจากไทยทั้งสิ้น ๒๔ ชั่วโมงพอดิบพอดี ถึงสหรัฐอเมริกาได้เวลาตามหาเรื่องเล่ามาฝากท่านทั้งหลายแล้วครับ ฝากติดตามกันด้วยนะครับ

ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ
ปล. บทความนี้เป็นการแชร์ประสบการณ์ตรง ไม่ใช่การโฆษณาและไม่เกี่ยวข้องได ๆ กับสารการบิน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *