หาดทรายสวย น้ำทะเลใส ห่างไกลความวุ่นวาย เกาะกูด จ.ตราด
เกาะกูดเป็นเกาะเล็กๆที่อยู่ติดชายแดนกัมพูชา นักท่องเที่ยวต้องนั่งเรืองเร็วจากท่าเรือตัวเมืองตราดออกไปประมาณ 45 นาที จากนั้นจะได้เจอกัยเกาะกูด โดยระหว่างทางจะได้พบกับเกาะช้าง และเกาะหมาก โดยที่เกาะกูดปกคลุมไปด้วยสวนมะพร้าว น้ำใสมองเห็นพื้นทรายใต้น้ำ และหาดทรายที่ขาวสะอาดรอบทั้งเกาะเหมาะแก่การทำกิจกรรมกลางแจ้ง ว่ายน้ำ พายเรือ รวมถึงดำน้ำชมประการัง
 |
| เรือเร็วส่งผู้โดยสารมายังเกาะกูด |
หากพูดถึงเกาะ สำหรับผมแล้วก็เคยมีประสบการณ์ไปแค่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง เท่านั้นเอง ผมจำได้ว่า ครั้งแรกที่เท้าของผมได้ย่ำลงบนเกาะเสม็ดนั้นมั่นตื่นเต้นมาก ใจเต้นตุ๊บๆ! เลยทีเดียว และการไปเยือนเกาะกูดครั้งนี้ เป็นครั้งที่สองที่ผมได้ขึ้นไปย่ำบนเกาะอีกครั้งหนึ่ง
 |
| ท่าเรือส่วนบุคคลเกาะกูดคาบาน่า |
เกาะกูด อยู่ห่างจากชายฝั่งมาก ในการเดินทางจึงต้องใช้เรือเร็วที่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที จากชายฝั่งที่ตัวเมืองตราด ขึ้นชื่อว่าเรือเร็วแรกๆ ผมก็ตื่นเต้นนะที่จะได้นั่ง เรือเร็วยิ่งกระแทกคลื่น ผมก็ยิ่งตื่นเต้น แต่ทว่าหลังจากที่เรือเล่นออกสู่ท้องทะเลสุดลูกหูลูกตา ตามหาเกาะก็ไม่เจอ การรอคอยจึงเกิดขึ้น ก็คือการรอคอยที่จะได้เจอกับเกาะกูดไงล่ะครับท่านผู้อ่าน
 |
| นั่งรับลมเย็นๆ ที่สะพานท่าเรือ |
หลังจากที่ท้องเรือเร็วกระทบคลื่นเป็นเวลาเกือบ 45 นาที ขณะที่กำลังเพลินอยู่กับท้องน้ำทะเลที่เป็นสีฟ้าก็ได้ยินเสียงบอกเล่าจากคนขับเรือว่า เกาะกูดอยู่ข้างหน้านั้นแล้ว ความตื่นเต้นของผมก็ได้กลับมาอีกครั้ง เย้ๆๆ…จะได้เหยียบเกาะที่สองของชีวิตแล้ว รอบเกาะกูดเต็มไปด้วยต้นมะพร้าว หาดทรายขาวสะอาด น้ำทะเลใสมาก อีกทั้งมีสะพานท่าเรือที่ทอดยาวออกไปไกลในท้องทะเลอีกด้วย
 |
| ชายทะที่เกาะกูด |
บนเกาะกูดน้ำทะเลใส ขณะเดินบนสะพานที่ทอดยาวออกไปในทะเลกว่า 100 เมตร ก็ยังสามารถมองลงไปถึงพื้นทรายที่อยู่ใต้ท้องทะเลแห่งนี้ได้อีกด้วย ทั้งปู ทั้งปลา แหวกว่ายอยุ่ใต้ท้องทะเล ใจผมนี่อยากจะกระโดดลงทะเลเล่นน้ำซะให้รู้แล้วรุ้รอด แต่ติดตรงที่สัมภาระที่ติดตัวมาต้องขนเข้าที่พักก่อน
 |
| ชายหาดที่เกาะดูดคาบาน่า |
การมาเยือนเกาะกูดในครั้งนี้ ได้ซื้อแพ็กเก็จ 3 วัน 2 คืน ที่รีสอร์ทเกาะกูดคาบาน่า โดยรีสอร์ทเป็นบ้านธรรมดา แบบบ้านเป็นหลัง ไม่มีเครื่องปรับอากาศ แต่อยู่ในบรรยากาศของป่ามะพร้าว มีร้านอาการและลานกิจกรรมไว้ให้บริการ ไม่ไกลจากรีสอร์ทก็จะมีหากทราย พร้อมเรือแคนนูไว้ให้พักผ่อนหย่อนใจ สามารถที่จะเดินเรียบชายหากเพื่อเก็บภาพบรรยากาศได้อยากสวยงาม
 |
| ดำน้ำดูประการัง |
นอกจากจะเล่นน้ำบริเวณชายหาดหน้าที่พักแล้ว บนเกาะกูดยังมีจุดสำหรับดำน้ำชมประการังอีกด้วย โดยจะต้องนั่งเรือเร็วประมาณ 30 นาที ท่ามกลางคลื่นที่ค่อนข้างมากในตอนกลางวัน โดยบริเวณที่ชมประการังนั้นมีเป็นบริเวณแคบๆ เพียงจุดสองจุดเท่านั้น แต่นั่นก็ต้องใช้เวลาในการเดินทางและดำน้ำชมประการังที่ต้องต้องใช้เวลาเกิดครึ่งค่อนวันกันเลยทีเดียว
 |
|
ดำน้ำชมประการัง
|
หากไปทะเลแล้วต้องเล่นแต่น้ำทะเลนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ยังไม่ครบบนเกาะกูด เพราะที่นั่นยังมีการร่องเรือชมป่าโกงกางรอบเกาะด้วย ซึ่งที่นี่มีป่าโกงการที่อุดมสมบูรณ์ เป็นป่าค่อนข้างทึบ การเดินทางสัญจรบนเกาะประดุจดังกำลังโดยสารเรือในครองแถวๆ อันพวา ประมาณนั้น ต้นโกงกางต้นใหญ่เกือบจะเกิดเป็นอุโมงค์ต้นไม้ นั่งเรือไป ชมป่าโกงกางไป ดูแล้วก็เพลินดีไปอีกแบบ
 |
| ท้องน้ำและป่าโกงกาง |
เที่ยวทั้งวัน อากาศเริ่มเย็นมาทะเลทั้งทีต้องรีบไปตามหาตำแหน่งที่จะได้เห็นพระอาทิตย์ตกทะเล ได้ได้มุมที่เรียกได้ว่าสวยกว่าใครในโลก จึงต้องรีบกลับห้องชำระล้างร่างกาย เปลี่ยนชุดหล่อหอบกล้องหามุมที่จะได้แสงยามเย็นที่ตรงตามจินตนาการ นั่นไง!! มุมที่สะพานทอดยาวรับแสงแดดอ่อนๆ นี่ก็อยู่ในจินตนาการด้วยนะ
 |
| สะพานท่าเรื่อทอดยาวตัดแสงแดดอ่อน |
หว้า!! มุมนี้มีคนไปจองซะแล้วแสงแดด่อนๆ ทิวยอดต้นไม้ลดหลั่นกันไป อีกทั้งมีต้นมะพร้าวเอนลงทะเลด้วย ประกอบกับคลื่นที่ซัดเข้าฝั่งเล้กน้อย นั่งฟังเสียงคลื่น ถ่ายภาพ ช่างมีความสุชดีแท้ เกาะกูด!
การจัดการทริป จะต้องติดต่อซื้อที่พักและทำแผนการเดินทางล่วงหน้า เพื่อทางรีสอร์ทจะจัดแจงเรื่องการเดินทางและอาหารไว้ต้อนรับ
ค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ย ท่านละ 5,000 บาท สำหรับ 3 วัน 2 คืน ลองศึกษาหาข้อมูลทางเว็ปไวด์นะครัช เพราะช่วงเวลาสำหรับการท่องเที่ยวคือ พฤษจิกายน – เมษายน ของทุกปีเท่านั้น นอกเหนือจากเวลาดังกล่าว มรสุมเข้า ฝนตก ลมแรง อันตรายนะครับ เพราะบริเวณนี้เป็นจุดรับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้เต็มๆครับป๋ม!