ท่องเที่ยววันที่ 4 (6 มกราคม 60)
ตื่นแต่เช้าเพื่อชมทะเลหมอกบนยอดเขาภูลังกาก่อนจะนั่งจิบกาแฟเพื่อเก็บรวบรวมบรรยากาศไว้ในความทรงจำ
ภูลังกาวันนั้นมีแนวเทือกเขาล้อมรอบพื้นราบอีกทั้งมีภูเขาบางลูกที่แยกจากกลุ่มไปตั้งอยู่อย่างโดยเดียว บางวันโดยเฉพาะวันที่หมอกหนาบริเวณพื้นราบจะถูกปกคลุมด้วยทะเลหมอกสวยงามเป็นอย่างยิ่ง แต่น่าเสียดาย ณ วันที่ไปเยือนนั้นมีฝนตกจึงได้เห็นเพียงหมอกฝน ที่ลอยอยู่บางๆ
 |
| หมอกบางๆที่ปกคลุมภูลังกา |
 |
| มอคค่าร้อนกับวิวภูลังกา |
นั่งชมวิวจนสายเกือบ 10 นาฬิกา จึงได้เวลาออกเดินทางกลับไปยังเชียงคาน โดยเลือกเดินทางผ่านไปยังตัวจังหวัดน่านและได้พบกับวิวข้างถนนที่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง
 |
| ทิวทัศน์ข้างๆถนน อ. สองแคว จ. น่าน |
เมื่อมาถึงจังหวัดน่านก็มุ่งหน้าสักการะพระธาตุแช่แห้ง ณ วัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง มีพระอุโบสถที่เป็นทรงล้านนาโบราณที่สวยงามด้วยศิลปะดั้งเดิม
 |
| อุโบสถของวัดพระธาตุแช่แห้ง |
 |
| องค์พระประธานภายในอุโบสถ |
โดยความสำคัญของวัดพระธาตุแช่แห้งนยอกจากเป็นวัดชั้นพระอารามหลวงแล้ว ยังมีพระธาตุแช่แห้งที่เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผู้เกิดปีเถาะ (ปีกระต่าย) ด้วย
 |
| องค์พระธาตุแช่แห้ง |
 |
| ประตูเข้าสู่เขตภายในองค์พระธาตุ |
นอกจากจะมากราบนมัสการพระธาตุแช่แห้งแล้ว ชาวปีเถาะบางท่านก็ยังนำตุ๊กตากระต่ายมาสักการะโดยจะพบเห็นตุ๊กตาและรูปปั้นกระต่ายวางที่จุดต่างๆรอบๆพระธาตุแช่แห้ง
 |
| ตุ๊กตากระต่ายน้อยวางอยู่ข้างกำแพงพระธาตุแช่แห้ง |
 |
| กริ่งระฆังที่แขวนไว้เพื่อบูชาพระธาตุแช่แห้ง |
เมื่อกราบนมัสการพระประธานของวัดและองค์พระธาตุแช่แห้ง และได้ยินเสียงกริ่งระฆังที่ลมพัดให้สัญญาณว่า เป็นเวลาที่ต้องจบทริปและขับรถเดินทางกลับมุ่งหน้าสู่อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางในครั้งนี้ที่ต้อยู่ห่างเป็นระยะทางกว่า 500 กิโลเมตร จึงขับรถยาวตลอด 8 ชั่วโมงจวบจนเวลาเที่ยงคืนจึงถึงที่หมายอย่างปลอดภัย
****จบทริปนี้กลับมายังนอนฝันว่ายังขับรถอยู่ในหุบเขากันเลยทีเดียว!****